หลายปีก่อนเราคงเคยได้ดูหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นนักเลงตีกันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะหนังที่สร้างพระเอกตลอดกาลของไทย นั่นคือหนังเรื่อง “ 2499 อันธพาลคลองเมือง” เป็นการนำเอาชีวิตจริงของวัยรุ่นในยุคนั้นออกมาถ่ายทอดเป็นหนังเป็นภาพยนตร์ให้เราได้ชมกัน เป็นการดำเนินเรื่องราวของวัยรุ่นในยุคสมัย 2499 ซึ่งสร้างมาจากเรื่องจริงและวิธีการเพิ่มเติมเนื้อหาให้ดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
เราคงพอจำกันได้ดีว่าหนังเรื่อง “2499 อันธพานคลองเมือง” เป็นหนังเรื่องแรกของ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี เป็นหยังที่สร้างชื่อให้กับเขาได้อย่างเต็มที่ ในหนังเรื่องนี้เขาได้แสดงเป็น นักเลงที่ชื่อว่า “แดง ไบเล่” ในชีวิตจริงนั้นก็มีคนที่ชื่อแดงไบเล่เช่นกันการได้ฉายานี้มาก็จะมีต้นกำเนิดออกมาไม่ใช่ว่าใครก็สามารถจะตั้งชื่อกันได้ ในหนังเรื่องนี้ ยังมีตัวแสดงเด่นอีกหลายตัวได้จำลองแสดงเด่นออกมาเกือบทั้งหมด เรื่องราวทั้งหมดนั้นได้ถูกเล่ามาจากนักเลงในยุคนั้นที่ยังคงรอดชีวิตอยู่มาในปัจจุบัน หนังเรื่องนี้ทำให้คนที่อยากจะเป็นนักเลงมีความหึกเหิมในจิตใจเป็นอย่างมาก เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ตอนนี้ก็พยายามที่จะเรียนแบบนักเลงในยุคนั้นเช่นกัน แต่ถ้าเราดูหนังเรื่องนี้ให้ดีบทสุดท้ายในตอนจบของดังนั้นจะมีการบอกอยู่เสมอว่า นักเลงแต่ละคนนั้นมีอายุไม่เคยเกิน 25 ปีเลยสักคน ส่วนใหญ่นั้นจะถูกยิงตาย ไม่ทันได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างเต็มที่ก็ต้องจบชีวิตตัวเองกันทั้งหมดแล้ว เป็นการสะท้อนสังคมว่าไม่ว่าจะเป็นนักเลงยิ่งใหญ่ขนาดไหนมีคนนับหน้าถือตาในกลุ่มวัยรุ่นมากขนาดไหน สุดท้ายแล้วความยิ่งใหญ่เรานั้นก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้
หนังในเรื่อง “ 2499 อันธพาลครองเมืองนั้น” จัดว่าเป็นหนังที่น่าดูอีกหนึ่งเรื่องเป็นหนังที่สะท้อนชีวิตจริงของนักเลงของไทยเป็นอย่างดี ปัจจุบันนั้นเรื่องราวของนักเลงนั้นลดน้อยถอยลงไปเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่หมดสิ้นไปเสียทีเดียว ปัจจุบันนักเลงของไทยมีการพัฒนาตัวให้มีประโยชน์ต่อสังคมมากยิ่งขึ้น รถเรื่องการไปข่มเหงผู้อื่นทำมาหากินอย่างสุจริตกัน แต่อาศัยเรื่องของความเด่นความดังความกล้าได้กล้าเสียเป็นจุดขายให้กับตัวเองเสียมากกว่า
การเลือกดูหนังดีๆสักเรื่องนั้นจำเป็นที่จะต้องดูเนื้อหาสาระว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร ไม่ใช่ว่าเราดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบนักเลงคนนี้ดูหล่อดูดีอยากจะพกปืนหรืออยากจะทำตัวกลางเหมือนกับนักเลงในสมัยนั้นบ้าง คุณอาจจะทำได้แต่คงไม่นานมากนัก สุดท้ายก็ต้องกลายไปเป็นศพอยู่ดี
เรื่องราวของหนังทุกเรื่องจะมีบทสรุปที่น่าติดตามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหนังนักเลงหรือหนังรักหวานแหวว เราเลือกที่จะตามแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีใครที่สามารถจะบังคับเรา แต่ถ้าเราดูหนังให้เป็นแล้วมาพัฒนากับตัวเราเองให้เกิดประโยชน์ หนังเพียงเรื่องเดียวก็สามารถที่จะทำให้เรากลายเป็นผู้นำโลกได้เช่นกัน
